สรุปความรู้ที่ได้รับจากการสัมมนา วันที่ 24 กรกฎาคม 2554 เรื่องการบริการรูปแบบใหม่
อาจารย์บุญเลิศ อรุณพิบูลย์ หัวหน้างาน งานพัฒนาและบริการสื่อสาระดิจิทัล
ฝ่ายบริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
เป็นการอบรมโดยการลองทำโปรแกรมต่างๆที่ใช้ในการบริการรูปแบบใหม่โดยเริ่มแรกเข้าเว็บ
ดาวน์โหลด Mercury z39.50 cliemts
ให้มองภาพว่า mercury z39.50 clients 8 คือ catalogue module ของระบบ innopac
ในห้องสมุด มช. ดังนั้นหากต้องหารลงรายการบรรณานุกรมหนังสือ
ประเด็นน่าสนใจของ z39.50
1.ระบบห้องสมุดที่จัดหา/จัดวื้อ พัฒนา ไม่มีโมดูล z39.50
2.ระบบห้องสมุดที่ใช้อยู่มีดมดูล z39.50 แต่ห้องสมุดไม่ทราบ ทั้งการเปิดการใช้งาน การใช้งาน
3.ห้องสมุด/บรรณารักษ์ ไม่รู้จัก z39.50 มาก่อน
4.หนังสือส่วนมากของห้องสมุดดเป็นภาษาไทย ซึ่งระบบห้องสมุดที่เปิดข้อมูลที่เปิดโมดูล z39.50
ของประเทศไทย มีน้อย หรือ ไม่เปิดระบบให้บริการ
z39.88 , OAI-PHM, Embeded Metadata
กับแลกเปลี่ยนรายการบรรณานุกรมจากหนังสือ/ทรัพยากร สู่ Application
การพัฒนาเว็บแยก 2 กรณี
1.ทำมือ... สร้างหน้า .php, .html, .htm
2.พัฒนาด้วย s/w เช่น CMS - Joomal , Drupal
ตัวอย่างทำหน้าเว็บแนะนำภาควิชา 1 หน้า จะได้ไฟล์ about.html
พิมพ์เนื้อหาแนะนำภาค 4 พารากราฟ
มีรูปภาพ .jpg ประกอบ 3 ภาพ
มีลิงก์ให้ดาวน์โหลดไฟล์แนะนำภาค 2 ไฟล์
.ppt
.pdf
เว็บที่ทำต้องให้ Google Search Engine เก็บข้อมูลได้ ไฟล์ประกอบการทำเว็บมีกี่ไฟล์
1 html
3 jpg
1 ppt
1 pdf
ทุกไฟล์ต้องฝัง Metadata ที่จำเป็น
// 1 html ฝัง Web Meta Tag
----------------เป็นการเขียน / ใส่ code เอง
---- < meta name = "keywords" content = "คำค้น" />
----< meta name = "authors" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
----< meta name = "description" content = "คำอธิบาย" />
// 3 jpg ฝัง IPTC
// 1 ppt ฝัง Document Metadata
------powerpoint ---> start ----> prepare ---> properties ---> ลงรายการ catalog ทั้งหมด
// 1 pdf ฝัง PDF Metadata
-----Adobe Acrobat Professional ----> file ---> properties
แล้วแต่ละชุด metadata จะลงรายกสรอย่างไร ( มาตรฐานลงรายการ )
ขยายทุกไฟล์ โดยเฉพาะ .html ให้รองรับมาตรฐาน Z39.5 ผ่าน Z39.88
< meta name = "keywords" content = "คำค้น" />
< meta name = "authors" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
< meta name = "description" content = "คำอธิบาย" />
------- Web Meta Tag ให้ข้อมูลกับ Search Engine
< meta name = "DC.title" content = "คำค้น" />
< meta name = "DC.authors" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
< meta name = "DC.description" content = "คำอธิบาย" />
< meta name = "DC.keywords" content = "คำค้น" />
< meta name = "DC.cretedata" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
--------DC Meta Tag ให้ข้อมูลบรรณานุกรมกับ Apps เช่น Reference
Manager ( EndNotes, Zotero, JabRef, Refwork ..) ผ่านมาตรฐาน Z39.88
< meta name = "Citation_title" content = "คำค้น" />
< meta name = "Citation_authors" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
< meta name = "Citation_description" content = "คำอธิบาย" />
< meta name = "Citation_Keywords" content = "คำค้น" />
< meta name = "Citation_Createdate" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
< meta name = "Citation_PublishDate" content = "คำอธิบาย" />
< meta name = "Citation_pdf_url" content = "คำค้น" />
< meta name = "Citation_jourjal_title" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
< meta name = "Citation_Volume" content = "คำอธิบาย" />
< meta name = "Citation_issue" content = "คำค้น" />
< meta name = "Citation_firstpage" content = "หน่วยงาน/ผู้สร้างสรรค์" />
< meta name = "Citation_lastpage" content = "คำอธิบาย" />
-------------Citation Meta Tag เป็นชุดใหม่เพื่อให้ข้อมูลบรรณานุกรมเชิงผลงาน
วิชาการกับ Gpoogle Scholar
การเกิดของ Citation Meta Tag เพราะปัญหาจาก OAI-PHM ที่ทำได้ยาก
การเพิ่ม Webometric Ranking
Size
Visibility
Rich Files
Scholar
ซอฟต์แวร์พัฒนา IR
eprints
Dspace
MediaTUMS
Omeka
Drupal คือ
ดรูปาล (Drupal) เป็นระบบจัดการเนื้อหาเว็บ (Content Management System) แบบโอเพนซอร์ส เริ่มต้นพัฒนาโดย Dries Buytaert ในภายหลังดรูปาลมีจุดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรมภายในที่ยืดหยุ่น ชื่อ Drupal นั้นเป็นการสะกดภาษาดัทช์คำว่า ?druppel? ด้วยภาษาอังกฤษ ความหมายของ ?druppel? นั้นแปลว่า ?drop? (หยดน้ำ) ซึ่งมีที่มาจากเว็บไซต์แรกที่ใช้ Drupal คือ drop.org
ความง่ายการใช้งาน
Drupal มีโครงสร้างโปรแกรมที่ต่างจาก CMS อื่น ๆ ผู้จัดการบริหารระบบไม่มี User Interface แยกออกไปต่างหากดังเช่น CMS โปรแกรมอื่น ๆ แต่ User Interafce ของ Drupal จะถูกเปลี่ยนแปลงไปตามสิทธิ์ของผู้ใช้ Drupal มีระบบบริหารและกำหนดสิทธิสมาชิกที่ดีมาก มีความยืดหยุ่นสูง แม้ว่าตอนแรกๆ อาจจะสับสนกับการใช้งานบ้าง แต่เมื่อเข้าใจระบบแล้ว จะรู้สึกว่าใช้งานได้ง่ายและสะดวกมาก นอกจากนี้ Drupal ยังมีรูปแบบการแสดงผลที่ค่อนไปทาง Blog สมัยใหม่ ซึ่งแตกต่างจาก CMS โปรแกรมอื่น ๆ ที่ยังคงมีรูปแบบการแสดงผลเชิงข่าวอยู่ ดังนั้นความแรงของกระแสบลอคจึงมีส่วนผลักดันความนิยมในตัว Drupal
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น